สลายความขัดแย้ง
- สารบัญ
- สลายความขัดแย้ง .........................................................๑
- ๑. ขัดแย้งเป็น ให้ได้ประโยชน์.................................................................. ๓
- ความวิเศษของมนุษย์อยู่ที่ไม่ต้องเป็นทาสของความขัดแย้ง...........................๓
- ทำการขัดแย้งให้เกิดผลเป็นประโยชน์...........................................................๕
- จะเป็นประชาธิปไตย ต้องพูดกันได้และต้องใฝ่รู้ความจริง............................. ๖
- ไทยดีด้านวัฒนธรรมเมตตา แต่ด้อยด้านวัฒนธรรมแสวงปัญญา
- อเมริกันด้อยด้านวัฒนธรรมเมตตา แต่ดีด้านวัฒนธรรมแสวงปัญญา........๘
- ไทยมัวตามฝรั่ง ระวังจะเสียสอง.................................................................๑๐
- ๒. จะเอาแค่ประนีประนอม หรือไปให้ถึงความสอดคล้องสามัคคี............. ๑๒
- ระบบแข่งขันย่อมมาด้วยกันกับความขัดแย้ง
- และการแก้ปัญหาย่อมยุติแค่ประนีประนอม ......................................... ๑๒
- ในระบบประนีประนอม จริยธรรมเป็นปฏิบัติการด้วยความฝืนใจ .................๑๔
- จริยธรรมที่แท้คือ ปฏิบัติการแห่งการพัฒนาความสุข..................................๑๖
- ต้องมองระบบพิทักษ์สิทธิของฝรั่งอย่างรู้เท่าทัน.......................................... ๑๘
- ถ้าจะรู้จักฝรั่งจริง ต้องมองให้ถึงรากฐานในภูมิหลังของเขา.......................... ๒๑
- ไทยว่า อยู่นี่ดี "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"
- อเมริกันว่า อยู่ไม่ได้ "ต้องไปข้างหน้า บุกฝ่าขยายพรมแดน" ................๒๔
- มีจุดหมายใหญ่ที่ทุกคนได้ร่วมกัน
- จึงจะข้ามพ้นจุดหมายย่อยของแต่ละฝ่ายที่ขัดกัน..................................๒๗
- ๓. ปฏิบัติการแก้ปัญหา ในระบบองค์รวม .................................................๓๐
- ปฏิบัติการของมนุษย์จะได้ผลจริง ต้องตั้งอยู่บนฐานของความจริง
- และเต็มตามระบบของกระบวนการในธรรมชาติ.................................... ๓๐
- แม้แต่นักปลุกระดม ก็ต้องใช้วิธีอริยสัจ
- รัฐบาลจะพัฒนาประเทศ ก็ไปได้สวยด้วยอริยสัจ..................................๓๓
- พวกมนุษย์สมัยใหม่พอมาเจอเรื่องศาสนา
- ก็พากันหลบปัญหา ไม่สู้หน้าความจริง.................................................. ๓๕
- อารยธรรมที่เจริญมา ฟ้องตัวเองว่า
- เป็นอารยธรรมที่ก่อไม่ใช่แก้ปัญหา.......................................................๓๗
- จริงใจและเปิดใจที่เมตตา แต่ต้องดำเนินการไปด้วยปัญญา......................... ๓๙
- ไม่ว่าจะใช้หลักไหนๆ ก็ต้องมองให้เห็นทั้งระบบ..........................................๔๒
- รู้จักอเมริกาไม่ใช่แค่รู้จักผลิตผลจากอุตสาหกรรม
- แต่ต้องเข้าให้ถึงจิตใจและปัญญาของเขา ...............................................๔๔
- เวรระงับด้วยการไม่จองเวร นั้นจริงแท้
- แต่ต้องศึกษาว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องจองเวร......................................๔๖
- ล้วงความสามารถพิเศษของคนไทย
- ออกมาแก้ไขความขัดแย้งในโลก.......................................................... ๔๙
- นิติศาสตร์แนวพุทธ .....................................................๕๓
- บทนำนิติศาสตร์กับ ธรรมศาสตร์..........................................................๕๖
- ๑. หลักการพื้นฐาน..................................................................................๖๕
- กฎหมาย ต้องมาจากธรรม ต้องชอบธรรม และต้องเพื่อธรรม ......................๖๕
- กฎมนุษย์ต้องไม่แปลกแยกจากกฎธรรมชาติ..............................................๗๑
- พัฒนาคนให้รู้จักเคารพสิทธิกันและกัน
- แต่ต้องรู้ทันว่าที่แท้มนุษย์ไม่มีสิทธิ....................................................... ๗๖
- ถึงจะพัฒนาระบบขึ้นมาหลากหลาย
- ทุกระบบต้องลงกันได้บนฐานหนึ่งเดียวแห่งธรรม.................................. ๘๑
- กฎหมายเพื่อสังคมมนุษย์จะไม่สมจริง
- ถ้าหยั่งไม่ถึงความจริง แห่งธรรมชาติมนุษย์..........................................๘๘
- จุดหมายของสังคม คือจุดหมายของกฎหมาย
- แต่สุดท้าย จุดหมายของกฎหมายต้องสนองจุดหมายของชีวิตคน ...........๙๑
- วินัย/กฎหมาย เป็นเครื่องจัดสรรให้เกิดโอกาส
- ที่จะเป็นฐานของการพัฒนาสู่การสร้างสรรค์ที่สูงขึ้นไป........................... ๙๓
- วินัย/กฎหมายช่วยจัดสรรสังคมดีที่เอื้อให้คนงอกงามมีชีวิตที่ดี
- คนยิ่งงอกงามมีชีวิตที่ดีก็ยิ่งหนุนสังคมดีที่คนจะมีชีวิตงอกงาม.............๙๗
- การปกครองที่แท้และกฎหมายที่ถูก
- ต้องมีจุดหมายสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์...............................๑๐๓
- มีกฎหมายไว้จัดการปกครอง
- เพื่อทำให้เกิดสังคมดีที่คนมีโอกาสพัฒนาชีวิตที่ดีงาม.........................๑๐๗
- กระบวนวิธีในการบัญญัติข้อกฎหมาย
- กฎหมายโดยหลักการ กับกฎหมายโดยบัญญัติ.................................. ๑๑๐
- กฎหมายที่แท้ประสานประโยชน์ของบุคคลกับสังคม
- และประสานสมมติของมนุษย์เข้ากับความจริงแท้ของธรรมชาติ..........๑๑๗
- ๒. หลักแห่งปฏิบัติการ ......................................................................... ๑๒๗
- ถ้าคนอยู่ในหลักการ ก็ไม่ต้องมีกฎหมาย
- ถ้ากฎหมายไม่ใช่เพื่อหลักการ ก็ไม่ควรให้เป็นกฎหมาย...................... ๑๒๗
- เมื่อคนเป็นวิญญูรู้สาระของกฎหมาย สังคมสงบสุขด้วยกติกาง่ายๆ
- ครั้นคนเสื่อมลงไป กฎหมายยิ่งบังคับซับซ้อน สังคมยิ่งเสื่อมทรุด........๑๓๔
- จะรักษาธรรมให้แก่สังคมได้ต้องรักษาดุลยภาพให้แก่ใจของตน .............. ๑๓๗
- พฤติกรรมจะถึงภาวะแห่งดุลยภาพ
- เมื่อจิตใจและปัญญามาประสานอย่างสมดุล .......................................๑๔๕
- ความเคร่งครัดในวินัย ประสานกับจิตใจที่ไม่ยึดมั่น
- คำนึงแต่จะรักษาธรรมเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน .............................๑๕๓
- ความยึดมั่นกฎหมาย หลงติดในสมมติจะกลายเป็นภัย แต่ถ้าเข้า
- ถึงธรรมที่เป็นฐานของกฎหมาย ก็จะกลายเป็นนักนิติศาสตร์ที่แท้........ ๑๖๐
- อารยธรรมของมนุษย์จะยั่งยืนเพียงใด
- อยู่ที่ภูมิธรรมภูมิปัญญาในการจัดการกับสมมติ..................................๑๗๐
- บทส่งท้าย มองอดีตถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างสรรค์อนาคต...........................๑๗๖
- ดุลยภาพโดยรวมของสังคมสัมฤทธิ์ได้
- ด้วยการจัดการทางสังคมสู่เป้าหมายแห่งการพัฒนาคน........................๑๗๖
- ฝ่ายนิติบัญญัติของไทยจะทำอย่างไร
- ถ้าจะคิดเกื้อกูลให้พุทธศาสนาอยู่ดีเพื่อประโยชน์แก่สังคมไทย.............๑๗๖
- เป็น rule of law นั้นหรือจะพอ อย่าเพิ่งภูมิใจถ้าพัฒนาสาระแท้
- ขึ้นมาไม่ได้อารยธรรมก็จะสลายด้วยกินตัวมันเอง............. ................๑๘๑
- บรรณานุกรม..........................................................................................๑๘๘
- รัฐศาสตร์แนวพุทธ: ตอน จริยธรรมนักการเมือง .....๑๘๙
- ปัญญาที่รู้เข้าใจจุดหมายของงานการเมือง ................................................๑๙๒
- จิตใจที่มุ่งมั่นต่อจุดหมายและใฝ่ดีต่อสังคม..............................................๑๙๔
- ธรรมาธิปไตย เป็นแกนจริยธรรมของประชาธิปไตย..................................๑๙๗
- หลักการ ต้องสนองความมุ่งหมาย ...........................................................๑๙๙
- รักษาธรรม คู่กับอารักขาประชาชน...........................................................๒๐๑
- ปัจจัยดีคือเศรษฐกิจที่ทั่วถึง และเพียงพอ.............................................. ๒๐๒
- แสวงปัญญาที่ทำให้ต้องการสิ่งที่ดีงามถูกต้อง และเป็นจริง........................๒๐๔
- ศักยภาพของนักการเมืองและประชาชน
- ตัดสินคุณภาพของประชาธิปไตย ...................................................... ๒๐๗
- จริยธรรมมาตรฐานของนักการเมือง
- ต้องไม่ขาดจริยธรรมพื้นฐานของชาวบ้าน............................................๒๐๘
- เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ............................................ ๒๑๑
- ข้อคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ.......................................๒๑๓
- ข้อจำกัดของเศรษฐศาสตร์แห่งยุคอุตสาหกรรม......................................๒๑๘
- ๑. การแยกตัวโดดเดี่ยวเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน............................๒๑๘
- ๒. ไม่เป็นอิสระจากจริยธรรม แต่ไม่ใส่ใจจริยธรรม ................................ ๒๒๑
- ๓. อยากเป็นวิทยาศาสตร์ทั้งที่ไม่อาจและไม่น่าจะเป็น.............................๒๒๖
- ๔. ขาดความชัดเจนเกี่ยวกับความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์............... ๒๓๔
- ก. ความต้องการ ............................................................................ ๒๓๕
- ข. การบริโภค..................................................................................๒๔๑
- ค. งาน และการทำงาน.................................................................... ๒๔๒
- ง. การแข่งขัน-การร่วมมือ................................................................๒๔๕
- จ. สันโดษ-ค่านิยมบริโภค...............................................................๒๔๗
- ฉ. การผลิต.....................................................................................๒๕๐
- ลักษณะสำคัญของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ .............................................๒๕๓
- ๑. เศรษฐศาสตร์มัชฌิมา: การได้คุณภาพชีวิต........................................ ๒๕๓
- ๒. เศรษฐศาสตร์มัชฌิมา: ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น...............๒๕๙
- สรุป.......................................................................................................๒๖๓
- บทพิเศษ หลักการทั่วไปบางประการ ของ เศรษฐศาสตร์แนวพุทธ
- (เศรษฐศาสตร์มัชฌิมา) ................................................................... ๒๖๖
- ๑. การบริโภคด้วยปัญญา ......................................................................๒๖๖
- ๒. ไม่เบียดเบียนตน-ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ................................................ ๒๗๐
- ๓. เศรษฐกิจเป็นปัจจัย .........................................................................๒๗๓
- ๔. สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์....................................................๒๗๘
- ๕. บูรณาการในระบบสัมพันธ์ของธรรมชาติ...........................................๒๘๗
มนุษย์จะต้องรู้เข้าใจธรรมชาติส่วนที่เป็นคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้
ของมนุษย์ และมองทะลุปัจจยาการของมันในระบบสัมพันธ์ของ
ธรรมชาติทั้งหมด แล้วศาสตร์ทั้งหลายก็จะบรรจบประสานกันได้พร้อม
กับที่การแก้ประดาปัญหาของมนุษย์จึงจะสำ เร็จแท้จริง และการ
สร้างสรรค์ต่างๆ รวมทั้งอารยธรรมของมนุษย์จึงจะบรรลุจุดหมาย
Download เอกสาร เพื่อศึกษาหาความรู้ คลิก!!!
ที่มา พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น